|
เยือนมรดกโลกใน ลิโธเนีย-เอสธัวเนีย –ลัตเวีย |
แถมช้อปปิ้งฟินแลนด์ 8 วัน 6 คืน
|
.png) |
|
กรุงเทพฯ–สนามบินสุวรรณภูมิ-( เฮลซิงกิ )–วิลนีอุส-ลิธัวเนีย-เกท ออฟ ดอน |
|
เมืองเก่า-โบสถ์โฮลีสปิริตและโฮลีมาเตอร์-ทราไก-เนินเขาแห่งกางเขน |
|
ริก้า-โบสถ์เซนต์แอน-ทาลลินน์-ปราสาท ทูมเปีย--โบสถ์อเล็คซานเดอร์
|
เส้นทาาง: |
โบสถ์เซ็นท์แมรี่–จัตุรัสกลางเมือง-พระราชวังแคทเดอริก-ริก้า(ลัตเวีย) |
|
ปราสาทบิชอบ แห่ง ทูไรดา-ปราสาทอัศวิน-จัตุรัสทาวน์ฮออล์ |
|
บ้านแบล็กเฮดส์-โบสถ์เซนต์ปีเตอร์-โบสถ์เซนต์จอห์น-โดมสแควร์-ริก้า |
|
พระราชวังรูนดาเล-ทาลลิน–เฮลซิงกิ (ฟินแลนด์)-อนุสาวรีย์ซีเบลิอุส |
|
เทศบาล-วิหารออโธดอกซ์–ตลาดอาหารท้องถิ่น-เฮลซิงกิ–กรุงเทพฯ |
|
|
|
วันแรกของการเดินทาง |
กรุงเทพฯ–สนามบินสุวรรณภูมิ-( เฮลซิงกิ )–วิลนีอุส |
|
|
|
|
06.30 |
เชิญคณะเดินทางพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 |
|
เคาน์เตอร์สายการบินฟินแอร์ ( AY ) |
|
เจ้าหน้าที่ของ เวิลด์ไวด์ ฮอลิเดย์ส คอยต้อนรับ และ อำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง |
09.00 |
ออกเดินทางโดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่ AY090 |
|
สู่วิลเนียสอุส โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่ เฮลซิงกิ |
15.15 |
ถึงสนามบินนานาชาติวานดา (เฮลซิงกิ) |
16.25 |
ออกเดินทางต่อโดยสายการบินเดิม เที่ยวบินที่ AY สู่วิลนีอุส |
17.30 |
ถึงสนามบินวิลนีอุส เมืองหลวงของประเทศลิธัวเนีย |
|
หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว นำท่าน นั่งรถโค้ชปรับอากาศ |
|
สู่เมือง วิลนีอุส ซึ่งเป็นเมืองที่ยูเนสโก้ได้ประกาศให้เมืองเก่าวิลเนียอุส |
|
เป็นมรดกโลกในเมื่อ ค.ศ. 1994 |
ค่ำ |
อาหารค่ำพื้นเมืองที่โรงแรม |
|
พักที่ โรงแรม ในเมืองวิลนีอุส |
|
ประเทศลิธัวเนีย |
|
|
วันที่สองของการเดินทาง |
วิลนีอุส–เกท ออฟ ดอน–เมืองเก่า-โบสถ์โฮลีสปิริต และ โฮลีมาเตอร์ |
|
TOWN HALL SQUARE-ทราไก–TRAKAI CASTLE-HILL OF CROSSES -ริกา
|
|
|
เช้า |
อาหารเช้า ที่โรงแรม |
|
ช่วงเช้านำท่าน ชมเมือง วิลนีอุส เมืองที่ใหญ่ และสวยงามที่สุดของ |
|
ประเทศสาธารณรัฐลิธัวเนีย เมืองนี้ ตั้งอยู่ตรงจุดบรรจบของแม่น้ำ |
|
เนริส และแม่น้ำวิลเนีย ล้อมรอบด้วยเนินเขาที่มีต้นไม้เขียวขจี |
|
ช่วงเช้า นำท่านเที่ยวชมเมือง วิลนีอุส |
|
1-2.jpg) 1(1).jpg) |
|
ชม โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ แอนด์ พอล สร้างแบบศิลปะ |
|
บารอคที่สวยที่สุดของเมืองมีงานปูนปั้นถึง 2 พันชิ้น ต่อจากนั้น |
|
นำท่านสู่ย่านเมืองเก่าของวิลเนียสอุสซึ่งได้ชื่อว่า เป็นเขตเมืองเก่าที่ใหญ่ที่สุด |
|
ในเขตยุโรปกลาง มีตึกอาคารเก่าแก่ งดงาม ย้อนยุคไปในช่วงศตวรรษที่ 15– 16 |
|
ชม โบสถ์เซนต์แอน แบบโรมันคาทอลิก อยู่ในเขตเมืองเก่า เดิมในช่วงศตวรรษที่ 14 |
|
เคยเป็นโบสถ์ไม้ ต่อมาใน ค.ศ. 1495– 150 0 พระนิกาย ฟรานซิสกัน |
|
สร้างโบสถ์ที่ทำจากหินขึ้นมาแทนที่ เสร็จสมบูรณ์ในปี 1581 แวะจตุรัสกลางเมือง |
|
“Town Hall Square”ชมลานน้ำพุขนาดใหญ่ อาคารบ้านเรือนในแบบลิทัวเนีย |
|
เริ่มที่เมืองเก่า และวิหารเซนท์ สตานิสลาฟ ปีเตอร์ แอนด์ พอล ย่านมหาวิทยาลัย |
|
และ Gate Of Dawn |
|
1(1).jpg) 1(1).jpg) |
กลางวัน |
อาหารกลางวันที่ภัตตาคารพื้นเมือง |
|
ระยะทาง วิลนีอุส – ทราาไก 30 กม. ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที |
|
หลังอาหารแล้ว รถโคชนำท่านไปสู่เมืองทราไก อยู่ทางทิศตะวันตกของ |
|
กรุงวิลนีอุส ปัจจุบันเป็นเมืองเล็กๆที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ |
|
และกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของท่องเที่ยว ตัวเมืองถูกล้อมรอบด้วย |
|
ทะเลสาบ ประมาณ200 แห่ง มีทะเลสาบกาลเว เป็นทะเลสาบ ที่ลึกมากที่สุด |
|
เป็นที่ตั้งของ ปราสาทกลางทะเลสาบ “Trakai Castle” บนเกาะเล็กๆใน |
|
ทะเลสาบกาลเวนำท่านชม ปราสาทหินทราไก สร้างในศตวรรษที่ 14 |
|
โดยดยุควีเตาตาส เจ้าผู้ครอง เมืองทราไกในอดีตปัจจุบันปราสาทนี้ เป็นปราสาท |
|
ที่มีความสำคัญทางด้าน การจัดการเชิงกลยุทธ์ที่ดีมากแห่งหนึ่งใน ลิธัวเนีย |
|
1212(1).jpg) 0(3).jpg) |
|
ออกจากปราสาททราไกแล้วเดินทางต่อสู่ กรุงริกา ระยะทาง 190 กม. |
|
ใช้เวลาเดินทาง 3.30 ชั่วโมงแวะ เนินแห่งไม้กางเขน The Hill of Crosses |
|
ที่เต็มไปด้วยไม้กางเขนน้อยใหญ่นับร้อยๆ ที่มาปัก |
|
วาง ที่เนินแห่งนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกของชาวคาธอลิกในลิธัวเนียที่ต่อสู้ |
|
เพื่อสันติความสงบสุขโดยเริ่มต้นจากการปักไม้กางเขนจำนวนหนึ่ง ที่ |
|
สถานที่แห่งนี้หลังจากเกิดการลุกขึ้นต่อต้านของชาวนาในปี ค.ศ. 1831 – 1863 |
|
ต่อจากนั้นเดินทางข้ามพรมแดนไปยังลัตเวีย |
|
145151(3).jpg)  |
ค่ำ |
อาหารค่ำพื้นเมืองที่ภัตตาคารของโรงแรม |
|
พักที่ โรงแรม คืนแรก ในริกา ประเทศลัตเวีย |
|
|
|
|
วันที่สามของการเดินทาง |
ริก้า–จัตุรัส OLD TOWN SQUARE-POWDER TOWER |
|
ปราสาทริก้า–วิหารเซนต์ปีเตอร์ |
|
|
เช้า |
อาหารเช้าที่โรงแรม |
|
ช่วงเช้านำท่านชม เมืองริก้า เมืองหลวงประเทศลัตเวีย อยู่ บนปากแม่น้ำดวินา |
|
เป็นเมืองใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองที่อยู่ในกลุ่มบอลติค มีชื่อว่า เป็น Paris of the North |
|
ยูเนสโก้ได้ประกาศให้เมืองเก่ากรุงริก้าเป็นหนึ่งในมรดกโลกในปีค.ศ.1997 |
|
ชมจัตุรัสทาวน์ฮออล์ สถานที่กำเนิดต้นคริสต์มาส ที่นิยมประดับในวันที่ 25 ธันวาคม |
|
ตรงกลางจัตุรัสมีอนุสาวรีย์นักรบโรแลนด์ ผู้ก่อตั้งเมืองริก้ายุคแรก และเป็นนักบุญ |
|
ในเวลาต่อมาชมบ้านแบล็กเฮดส์ ตรงข้าม ศาลาว่าการ เป็นอาคารที่สวยที่สุด |
|
และสถานที่พบปะของสมาคมพ่อค้าชาวเยอรมันที่ยังโสด ที่อาศัยอยู่เมืองริก้า |
|
เมื่อปี 1416 บ้านแบล็กเฮดส์ที่ถูกทำลายเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้รับการ |
|
บูรณะใหม่จนสวย เป็นอาคารที่สวยที่สุดในนี้ และมีร้านขายของที่ระลึก รอบจัตุรัส |
|
1515.jpg) 1.jpg) |
|
1(1).jpg) 1(1).jpg) |
กลางวัน |
อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร |
|
หลังอาหารแล้วนำท่านสู่ย่านใจกลางเมืองเก่า |
|
ที่เรียกว่า โดมสแควร์ มีโบสถ์ประจำเมืองริก้า อยู่ริมจัตุรัส |
|
สร้างเมื่อปี 1211 ข้างในมีออร์แกนใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้ปรับปรุงซ่อมแซม |
|
แล้วเสร็จ ในปี 1999เพื่อให้ทันฉลองพร้อมกับ รัสเซีย ที่ครบรอบก่อตั้งกรุงมอสโก |
|
มา 850 ปี บริเวณ จัตุรัส มีอาคารอื่นๆรายล้อม เช่น ตลาดหุ้น 1852–1855 |
|
สถานีวิทยุ ลัตเวีย ใกล้ๆ กัน เป็นบ้านสามพี่น้อง สร้างเมื่อปี 1646 โดยพ่อค้า |
|
ใช้ ชั้น 2 เป็นที่เก็บสินค้าชั้นล่างเป็นที่พักอาศัย |
|
จากนั้นมอบเวลาให้ท่านเดินเที่ยวชมเมืองหรือช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและ |
|
ของที่ระลึกตามอัธยาศัยจนถึงเวลานัด |
ค่ำ |
อาหารค่ำที่ภัตตาคารพื้นเมือง |
|
พักที่ โรงแรม คืนที่สอง ในริก้า |
|
|
|
|
วันที่สี่ของการเดินทาง |
ริกา–พาร์นู-ทาลลินน์–ปราสาททูมเปีย-โบสถ์อเล็คซานเดอร์ เนฟสกี้ |
|
โบสถ์เซ็นท์แมรี่-เมืองเก่า-จัตุรัสกลางเมือง-พระราชวังแคทเดอริกและปาร์ค |
|
|
เช้า |
อาหารเช้าที่โรงแรม |
|
เช๊คเอ้าท์จากโรงแรมแล้ว น้ำท่านแวะชมวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง |
|
ของ เมืองริก้าสร้างในศตวรรษที่ 13 ยอดโบสถ์ทำจากไม้ติดตั้งในปี 1690 |
|
สูงที่สุดในโลกในเวลานั้นตัวโบสถ์ถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 |
|
ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 1973 และเปลี่ยน ยอด ที่เดิมเป็นไม้ |
|
เป็นโลหะแทนนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นจุดชมวิวดูริก้า ในมุมพาโนรามาด้านหลัง |
|
โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ เป็นโบสถ์เซนต์จอห์น สร้างในปี 1234 เพื่อใช้เป็นโรงสวดของ |
|
พระนิกายโดมินิกัน ต่อมาในศตวรรษที่13กลายเป็นโบสถ์ ในปี 1582เปลี่ยน |
|
115515(1).jpg) .jpg) |
|
125121(1).jpg) .jpg) |
|
( ระยะทาง 190 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.40 ชั่วโมง ) |
กลางวัน |
อาหารกลางวันที่ภัตตาคาร |
|
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่กรุงทาลลินน์ (ระยะทาง 129 กิโลเมตร ใช้เวลา 1.50 ชั่วโมง ) |
|
แวะปราสาทย่านทูมพี เดิมเป็นที่ตั้งปราสาทและป้อมปราการ และที่พักของเจ้าเมือง |
|
ต่อมาเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเมือง เขตนี้เป็นที่พักอาศัยของขุนนางและคนที่มีฐานะ |
|
ชมปราสาททูมเปีย ปัจจุบันเป็น อาคารรัฐสภาเอสโทเนีย สร้างบนป้อมปราการเก่าซึ่ง |
|
เคยเป็นฐานบัญชาการของกองกำลังต่างชาติ ช่วงที่ผลัดกันเป็นเจ้าผู้ปกครองแผ่นดิน |
|
เอสโตเนียอาคารด้านหน้าเป็นศิลปะแบบบาร็อกสีชมพูพาสเทล สดใสดูไม่เหมือน |
|
เป็นหน่วยงานราชการ ชมโบสถ์อเล็คซานเดอร์ เนฟสกี้ โบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ |
|
ที่ใหญ่ที่สุด หรูหราและโอ่อ่าที่สุดในทาลินน์ อยู่ที่ฝั่งเมืองเก่า |
|
สร้างเมื่อครั้งที่เอสโทเนียยังตกอยู่ภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต |
|
เดิมสร้างเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ ของ Saint Alexander Nevsky |
|
เหนือสงครามน้ำแข็งที่ ทะเลสาบ เปปุส ใช้ศิลปะการก่อสร้างสไตล์รัสเซี่ยน |
|
56(1).jpg) 625626(1).jpg) |
|
1555(1).jpg) 4548(1).jpg) |
|
ชมโบสถ์เซ็นท์แมรี่ ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง อุทิศแด่พระแม่มารี ตัวโบสถ์สร้างด้วย |
|
ไม้ก่อนยุคที่เดนมาร์กเข้ามาปกครองในปี 1219 และกลาง ค.ศ. ที่ 15 ก่อสร้างด้วยหิน |
|
ภายในโบสถ์มีโลงหินตั้งอยู่รอบ ๆสมัยเมื่อตั้งแต่ ค.ศ.13–18 เป็นของบุคคลที่มีชื่อเสียง |
|
ในสมัยก่อน มีตราประจำตระกูลของคนร่ำรวยแขวนตามผนัง ชมหลุมฝังศพ มีของนาย |
|
Otto Johann Thuve นักรัก ภายหลังสำนึกผิดก่อนเสียชีวิตได้สั่งให้นำร่างของเขามา |
|
ฝังไว้ที่ทางเดินเข้าโบสถ์ให้คน เหยียบย่ำเป็นการไถ่บาป แต่อีกนัยหนึ่งว่า บุคคลคนนี้ |
|
ต้องการได้เห็นผู้หญิงทุกคนที่เดินเข้าโบสถ์นำท่านสู่ จัตุรัสกลางเมือง ศูนย์กลาง |
|
การค้าขาย ประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การ Unescoเมื่อค.ศ. 1997 บริเวณจัตุรัส |
|
เต็มไปด้วยอาคารเก่าสไตล์อาร์ตนูโวและโกธิค มี ศาลาว่าการเมืองสร้างในศิลปะโกธิค |
|
และมีสัญลักษณ์มังกรสีเขียวสวมมงกุฎ อยู่เหนือกำแพงโดยเชื่อกันว่าเป็นมังกรผู้ปกป้อง |
|
คุ้มครองเมืองทางทิศเหนือของจัตุรัสตรงกันข้ามกับศาลาว่าการเมืองตั้งแต่ปีค.ศ. 1422 |
|
ชม พระราชวังแคทเดอริกและปาร์ค เคยเป็นที่ประทับส่วน พระองค์ของพระเจ้าซาร์ |
|
ตั้งแต่ปี1714 ตัวพระราชวังแบบบาร็อกโอบล้อมไปด้วยสวนขนาดใหญ่ มีต้นโอ๊ค |
|
และต้นเชสนัทอายุหลายร้อยปี มีบึงน้ำเป็นที่อาศัยของฝูงหงส์น้ำพุ |
|
รูปปั้นแกะสลักและแปลงดอกไม้หลาก |
|
 12155(1).jpg) |
|
1212(1).jpg) 1111(1).jpg) |
|
นำท่านไปยังถนนคนเดินและมอบเวลาให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก |
|
จนถึงเวลานัดไปยังภัตตาคารพร้อมกัน |
ค่ำ |
อาหารค่ำที่ภัตตาคารท้องถิ่น |
|
พักที่ โรงแรม ใน ทาลลิน ประเทศเอสโธเนีย |
|
|
|
|
วันที่ห้าของการเดินทาง |
ทาลลิน–เรือเดินสมุทร TALLINK SHUTTLE-เฮลซิงกิ–ตูรกู้–นานทาลี |
|
|
|
|
|
เนื่องจากเวลาเช็คอินที่เรือด่วน TALLINK SHUTTLE เป็นเวลาที่ 06.30 |
|
บริษัทเรือเคร่งครัดเรื่องเวลามากและไม่ยอมรอผู้ที่มาช้ากว่ากำหนด |
|
จึงต้องขอให้ท่านรับประทานอาหารเช้าแบบอาหารกล่องเมื่ออยู่บนเรือแล้ว |
05.30 |
เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมแล้วรถรับไปยังท่าเรือ |
06.30 |
ถึงท่าเรือเพื่อเช็คอิน |
07.30 |
ออกเดินทางข้ามทะเลบอลติคโดย Fast Ferry Tallink Shuttle เรือเดินสมุทร |
|
ขนาดใหญ่ไปยังท่าเรือของกรุงเฮลซิงกิ |
09.30 |
ถึงกรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของฟินน์แลนด์ |
|
รถรอรับคณะออกเดินทางสู่เมืองตูรกุ (Turku) อดีตเมืองหลวงแห่งแรกของฟินแลนด์ |
|
ปัจจุบันเป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของประเทศ |
กลางวัน |
อาหารกลางวันที่ภัตตาคารจีน |
|
จากนั้นเที่ยวเมืองตูรกุเดินชมตัวเมืองเก่าบน 2 ฝั่งแม่น้ำโอราโจกิ โดยเริ่มต้นจาก |
|
มหาวิหารตุรกูเป็นโบสถ์เก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในฟินแลนด์ มีอายุตั้งแต่สมัย |
|
ศตวรรษที่ 13สองข้างของโบสถ์ยังเป็นที่ฝั่งศพของวีรบุรุษชาวสวีเดนรวมทั้ง |
|
พระนางแคทเธอรีนพระราชินีแห่งสวีเดนที่เก่าแก่สวยงาม |
|
แล้วเดินทางต่อไปยังเมืองนานทาลี |
|
นำท่านสู่เมืองนานทาลี (Nantali) เมืองริมฝั่งทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังจากสปารีสอร์ท |
ค่ำ |
อาหารค่ำแบบ ที่ภัตตาคาร |
|
พักที่โรงแรม ใน นานทาลี / ตูรกุ |
|
|
วันที่หกของการเดินทาง |
นานทาลี / ตูรกู–ช้อปปิ้ง-เฮลซิงกิ |
|
|
เช้า |
อาหารเช้าที่โรงแรม |
|
หลังอาหารแล้ว มอบเวลาให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยจนถึงเวลาเช็คท์เอ้าท์ |
|
นำท่านออกจาก นานทาลี ไปยัง กรุงเฮลซิงกิ เมืองหลวงของ ฟินแลนด์ |
กลางวัน |
อาหารกลางวันที่ภัตตาคารไทย |
|
หลังอาหารแล้วนำท่านเข้าเช็คอินที่โรงแรม และมอบเวลาคืนให้แก่ท่านที่จะพักผ่อน |
|
โดยอิสระหรือออกไปช้อปปิ้งที่ย่านสรรพสินค้า Kamppi Shopping Mali ที่ใหม่ |
|
และใหญ่ที่สุดของเฮลซิงกิที่จะเลือกหาซื้อสินค้าคุณภาพต่างๆ หรือสินค้าพื้นเมืองเช่น |
|
เครื่องแก้ว คริสตัล เครื่องหนัง และเครื่องประดับสุภาพสตรี สินค้าแบรนด์เนมของแท้ |
|
ของที่ระลึกและสินค้าชั้นนำของฟินแลนด์ ตามความสนใจส่วนบุคคลโดยอิสระ |
|
(1).jpg)  (2)15656(1).jpg) |
|
จนถึงเวลานัดกันที่จุดนัดพบ |
|
นำท่านไปยังภัตตาคารพร้อมกัน |
ค่ำ |
อาหารค่ำที่ภัตตาคารจีน |
|
พักที่โรงแรม ใน เฮลซิงกิ |
|
|
วันที่เจ็ดของการเดินทาง |
เฮลซิงกิ–อนุสาวรีย์ ซีเบลิอุส-ที่ทำการเทศบาล-วิหารออโธดอกซ์-ท่าเรือ |
|
ตลาดอาหารท้องถิ่น-ช้อปปิ้ง ตลาดท้องถิ่น–เฮลซิงกิ-กรุงเทพฯ |
|
|
เช้า |
อาหารเช้าที่โรงแรม |
|
ช่วงเช้านำท่านไปยัง อนุสาวรีย์ ซีเบลิอุส ต่อด้วย ที่ทำการเทศบาลของเฮลซิงกิ |
|
ที่มีการก่อสร้างอันสวยงามวิหารออโธดอกซ์ ที่ออกแบบสถาปัตยกรรมรัสเซีย |
|
แล้วนำท่านไปยังท่าเรือตรงไปยัง ตลาดอาหารท้องถิ่นที่ท่านสามารถเลือกซื้อ |
|
ไข่ปลาคาเวียร์ หรือ ปลาแซลมอนรมควัน และ ปลาชนิดต่างๆ ที่ราคาถูกกว่าในตลาด |
|
กรุงเทพฯ หลายเท่า |
|
12(1).jpg) 155(1).jpg) |
|
3333(1).jpg) 151251(1).jpg) |
กลางวัน |
อาหารกลางวัน แบบ บุฟเฟต์ที่ภัตตาคาร |
|
หลังอาหารแล้วนำท่านไปยังสนามบินเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ |
ค่ำ |
ออกเดินทาง จากกรุงเฮลซิงกิ โดยสายการบินฟินน์แอร์ เที่ยวบินที่ AY 089 |
|
สู่กรุงเทพฯ |
|
( อาหารค่ำ และเช้าวันรุ่งขึ้นบนเครื่องบิน ) |
|
|
วันที่แปดของการเดินทาง |
กรุงเทพฯ–สนามบินสุวรรณภูมิ |
|
|
06.00 |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ - กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ |
|
|
**************** |